The Color of Money (1986) บรรยายไทย
VIDEO
เรื่องย่อ : The Color of Money (1986) บรรยายไทย
ดูหนัง The Color of Money
บทนำ
The Color of Money เป็นภาพยนตร์ที่ออกฉายในปี 1986 กำกับโดยมาร์ติน สกอร์เซซี ซึ่งเป็นภาคต่อของภาพยนตร์คลาสสิคเรื่อง The Hustler ที่ออกฉายในปี 1961 โดยมีการกลับมารับบทของพอล นิวแมนในฐานะเอ็ดดี้ ฟัลโคเนอร์ และการแสดงที่น่าประทับใจของทอม ครูซในบทของวีลลี่ บีงแฮม ภาพยนตร์นี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ดีที่สุดเกี่ยวกับการเล่นพูล ส่วนใหญ่เน้นไปที่การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ในโลกของการพนันและการแข่งขัน
นักแสดง
- พอล นิวแมน รับบทเป็น เอ็ดดี้ ฟัลโคเนอร์
- ทอม ครูซ รับบทเป็น วีลลี่ บีงแฮม
- มาริซ่า โทเมอิ รับบทเป็น คาเรน
- จอห์น เทอร์เทอร์โร รับบทเป็น จอห์น
- ฟิลิป เบเกอร์ ฮอลล์ รับบทเป็น มาร์วิน
คะแนน IMDB และ Rotten Tomatoes
คะแนน IMDB ของภาพยนตร์นี้อยู่ที่ 7.0/10 ขณะที่คะแนน Rotten Tomatoes อยู่ที่ 88% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความนิยมและการยอมรับจากผู้ชมและนักวิจารณ์
สรุปเนื้อเรื่อง
เนื้อเรื่องของ The Color of Money เริ่มต้นด้วยเอ็ดดี้ ฟัลโคเนอร์ (พอล นิวแมน) ที่เป็นนักเล่นพูลที่เคยมีชื่อเสียง แต่ตอนนี้กลับอยู่ในสภาพที่ตกต่ำ เขาได้พบกับวีลลี่ บีงแฮม (ทอม ครูซ) นักเล่นพูลหนุ่มที่มีพรสวรรค์และเต็มไปด้วยความมั่นใจ เอ็ดดี้เห็นโอกาสในการกลับคืนสู่โลกของการเล่นพูลอีกครั้ง โดยการเป็นโค้ชให้กับวีลลี่ ในระหว่างการเดินทางนี้ทั้งคู่ต้องเผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันที่ดุเดือดกับนักเล่นพูลคนอื่น ๆ และความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างเอ็ดดี้และวีลลี่
เอ็ดดี้ต้องเรียนรู้ที่จะปล่อยวางความคิดเก่า ๆ ของเขาในขณะที่วีลลี่พยายามจะหาความสมดุลในชีวิตของเขา ทั้งคู่มีการเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดและการสูญเสีย แต่ในขณะเดียวกันก็มีการสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขึ้นในระหว่างการเดินทางนี้
ในที่สุด เรื่องราวนำพาพวกเขาไปสู่การแข่งขันที่สำคัญ ซึ่งนำมาซึ่งการทดสอบความสามารถและความมุ่งมั่นของทั้งคู่ และในตอนท้ายของเรื่อง เราจะได้เห็นว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร และความหมายของการเป็น “ผู้ชนะ” ที่แท้จริงคืออะไร
บทสรุป
The Color of Money เป็นภาพยนตร์ที่ไม่มีเพียงแค่การเล่นพูลเท่านั้น แต่ยังเป็นการสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่มีความสามารถและการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ภาพยนตร์นี้เต็มไปด้วยบทสนทนาที่ฉลาดและการแสดงที่น่าทึ่งจากนักแสดงทั้งสองคน พอล นิวแมนและทอม ครูซได้สร้างความสัมพันธ์ที่น่าจดจำ ซึ่งจะทำให้ผู้ชมประทับใจและคิดถึงความหมายที่แท้จริงของชัยชนะและการเป็นผู้ชนะ

5